ช่วงนี้กระแสข่าวธุรกิจขายตรงกลับมาเป็นที่สนใจอย่างมาก หลังจากรายการ โหนกระแส โดยพิธีกรชื่อดัง หนุ่ม กรรชัย ได้เปิดประเด็นเกี่ยวกับธุรกิจของ The Icon ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงถึงความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายและธุรกิจที่อาจเข้าข่ายเป็น แชร์ลูกโซ่ รายการนี้ได้เผยให้เห็นถึงปัญหาที่ผู้บริโภคหลายคนเผชิญในการแยกแยะธุรกิจที่ถูกต้องจากธุรกิจที่มีเจตนาหลอกลวง
และดราม่า #ขายตรง กลายเป็นกระแสที่มาแรงและมีหลายคนเข้าร่วมเพื่อสร้างรายได้เสริม แต่ก็มักจะมีคำถามและความสับสนเกิดขึ้นบ่อยครั้งเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง ธุรกิจขายตรง และ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แอดมินจึงอยากพาทุกคนมาเจาะลึกว่าทั้งสองธุรกิจนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และทำไมการแยกแยะธุรกิจทั้งสองรูปแบบจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันมีเส้นกั้นบางๆกั้นอยู่ และหลายคนยังเข้าใจผิดและเอาไปเหมารวมกัน
ธุรกิจขายตรงคืออะไร?
ธุรกิจขายตรง (Direct Selling) คือการขายสินค้าหรือบริการโดยไม่ผ่านร้านค้าหรือช่องทางการจัดจำหน่ายแบบปกติ แต่ใช้วิธีการจำหน่ายโดยตรงจากบริษัทไปยังผู้บริโภคผ่านนักธุรกิจอิสระ ซึ่งคนเหล่านี้เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ทำหน้าที่แนะนำสินค้าและบริการให้กับลูกค้า โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้ผลตอบแทนจากการขายสินค้า หรือบางครั้งอาจได้ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายของตัวแทนในเครือข่ายของตน
ลักษณะของธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย
- ค่าสมัครต่ำ:
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสำหรับธุรกิจขายตรงจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเงินค่าสมัครนี้จะถูกใช้เพื่อจัดหาคู่มือความรู้ เอกสารการฝึกอบรม ค่าดำเนินการลงทะเบียนในระบบ และสินค้าตัวอย่างสำหรับตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเรียกเก็บเงินเกินความจำเป็น - สินค้าหลากหลายและมีคุณภาพสูง:
ธุรกิจขายตรงจะจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง โดยสินค้าจะได้รับการวิจัยและพัฒนามาอย่างดีเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดและมีคุณค่าใช้ซ้ำได้ ยอดขายจะเกิดจากความพึงพอใจของลูกค้า และบริษัทจะทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากเพื่อการวิจัยและพัฒนาสินค้า - การรับประกันสินค้าคืนเงิน:
ในธุรกิจขายตรง ลูกค้าจะสามารถขอคืนเงินหรือเปลี่ยนสินค้าได้หากไม่พึงพอใจ สินค้ามีการรับประกันคุณภาพเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการซื้อ โดยจะมีการกำหนดระยะเวลาในการคืนเงินอย่างเหมาะสม - มุ่งเน้นธุรกิจระยะยาว:
ธุรกิจขายตรงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจระยะยาว บริษัทมีความรับผิดชอบต่อผู้แทนจำหน่ายที่เป็นผู้ขายสินค้าจริง ซึ่งสิ่งนี้แสดงถึงความมั่นคงและการทำธุรกิจอย่างโปร่งใสในระยะยาว - ผลตอบแทนตามยอดขาย:
ผลตอบแทน รายได้ และตำแหน่งของผู้ขายจะขึ้นอยู่กับการทำงานและยอดขายจริง ไม่ใช่การชวนคนมาเข้าร่วม ผู้ขายจะได้รับผลตอบแทนตามยอดขายที่ขายสินค้าได้จริงๆ ไม่ใช่จากการชักชวนสมาชิกใหม่ - การก่อตั้งธุรกิจจากสินค้าคุณภาพ:
ธุรกิจขายตรงก่อตั้งขึ้นจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ผู้ขายจะมีความมุ่งมั่นในการขยายตลาดและหาลูกค้าใหม่ๆ ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า - ผู้ขายอิสระสร้างรายได้จากการขาย:
ในธุรกิจขายตรง ผู้ขายอิสระจะสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่จากการสร้างเครือข่าย การขยายตลาดจะเน้นไปที่การขายสินค้าให้ผู้บริโภค - มีกฎระเบียบห้ามตุนสินค้า:
ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ เช่น ข้อห้ามไม่ให้ผู้ขายเก็บตุนสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย ตัวแทนจำหน่ายจะไม่สามารถซื้อสินค้ามากเกินไปเพื่อหวังผลตอบแทนโดยไม่เกิดการขายจริง - ผู้ขายเน้นการขายสินค้าและบริการ:
การขายสินค้าและบริการเป็นสิ่งที่ธุรกิจขายตรงเน้นมากที่สุด ผู้ขายจะต้องทำหน้าที่ขายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง ไม่เน้นการชักชวนคนใหม่ๆ เข้ามา - ถูกต้องตามกฎหมายและคุ้มครองโดยกฎหมาย:
ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย ซึ่งไม่ต่างจากการขายสินค้าในห้าง ผู้บริโภค นักขาย และบริษัทขายตรงล้วนได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่คืออะไร?
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Pyramid Scheme) เป็นรูปแบบของการหลอกลวงทางการเงินที่มีลักษณะเป็นการชักชวนคนให้เข้าร่วมลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง แต่มักจะไม่มีสินค้า/บริการจริงให้ขาย หรืออาจมีสินค้าคุณภาพต่ำต้นทุนต่ำมาบังหน้าเพื่อทำให้ถูกกฏหมายธุรกิจขายตรง การทำกำไรในธุรกิจแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้นจากการนำเงินของคนใหม่ที่เข้าร่วมมาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับคนที่เข้าร่วมก่อนหน้านี้ คล้ายกับการ “วนเงิน” ซึ่งจะพังทลายในที่สุดเมื่อไม่สามารถหาคนใหม่มาเข้าร่วมได้
ลักษณะของธุรกิจแชร์ลูกโซ่
- ค่าสมัครสูงเกินไป:
สมาชิกใหม่ในแชร์ลูกโซ่จะถูกเรียกเก็บค่าสมัครที่สูง โดยมีการอ้างว่าเป็นค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าจำนวนมากเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นเพียงข้ออ้างในการรับเงินจากสมาชิกใหม่ รายได้ส่วนใหญ่ของแชร์ลูกโซ่จึงมาจากการรับสมัครสมาชิกมากกว่าการขายสินค้า - สินค้าคุณภาพต่ำและเน้นกำไรสูง:
สินค้าในแชร์ลูกโซ่มักมีคุณภาพต่ำและขายในราคาที่สูงเกินจริง รายได้หลักของธุรกิจจะมาจากการบังคับให้สมาชิกใหม่ซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ แม้สินค้าจะไม่มีคุณภาพหรือความจำเป็นก็ตาม - ไม่มีนโยบายคืนสินค้า:
แชร์ลูกโซ่มักจะไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้าคืน เนื่องจากหากมีการคืนสินค้า ระบบแชร์ลูกโซ่จะล้มเหลว เพราะสินค้าที่ขายให้กับสมาชิกใหม่มักเป็นสินค้าที่ไม่สามารถขายต่อได้ง่าย ทำให้การคืนสินค้าจะทำให้ระบบพีระมิดพังทลาย - ร่ำรวยในระยะสั้น:
แชร์ลูกโซ่มักโฆษณาว่าเป็นโอกาสในการทำเงินเร็ว (Get-rich-quick scheme) แต่ความจริงคือคนจำนวนมากที่อยู่ในฐานของพีระมิดจะเป็นผู้ที่ต้องจ่ายเงินให้กับคนไม่กี่คนที่อยู่บนยอดของระบบ ซึ่งธุรกิจรูปแบบนี้ไม่สามารถดำเนินไปได้ในระยะยาว - ตำแหน่งในระบบซื้อได้:
ในแชร์ลูกโซ่ ตำแหน่งและสถานะในระบบสามารถซื้อได้ ทำให้ผู้ที่จ่ายเงินมากกว่าจะมีสิทธิพิเศษหรือผลตอบแทนสูงกว่าคนอื่น โดยไม่คำนึงถึงความสามารถในการขายสินค้า - เน้นการสมัครสมาชิกใหม่:
รายได้หลักของแชร์ลูกโซ่มาจากการสมัครสมาชิกใหม่ สมาชิกจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าตุนไว้ แม้จะไม่จำเป็นหรือขายไม่ออก แต่ต้องทำเพื่อคงสถานะในระบบ เมื่อระบบล้ม สมาชิกที่เข้ามาใหม่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด - ฉ้อฉลและหลอกลวง:
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่มีลักษณะฉ้อฉลและหลอกลวง โดยการใช้โฆษณาหลอกลวงเพื่อดึงดูดผู้คนเข้ามาในระบบ โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง แต่รายได้ที่เกิดขึ้นจริงมาจากเงินของสมาชิกใหม่ ไม่ใช่จากการขายสินค้า - ค่าธรรมเนียมสมัครสูง:
ผู้เข้าร่วมในแชร์ลูกโซ่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสมัครที่สูง หรือถูกบังคับให้ซื้อสินค้าที่เกินความจำเป็นในตอนสมัคร การสมัครเข้าร่วมมักจะมีเงื่อนไขที่ซับซ้อน และต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาสถานะในระบบ - ไม่สนใจการขายสินค้า:
แม้ว่าจะมีสินค้าจำหน่าย แต่ระบบแชร์ลูกโซ่ไม่เน้นการขายสินค้าจริงๆ และไม่มีบริการหลังการขาย รายได้มาจากการหาสมาชิกใหม่ และการบังคับให้ซื้อสินค้าตอนสมัคร - ผิดกฎหมายในหลายประเทศ:
ธุรกิจแชร์ลูกโซ่เป็นรูปแบบธุรกิจที่ผิดกฎหมายในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศพัฒนาแล้วในเอเชีย ธุรกิจประเภทนี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเนื่องจากสร้างความเสียหายต่อผู้เข้าร่วมและเศรษฐกิจ
เปรียบเทียบชัดๆ ธุรกิจขายตรง VS ธุรกิจแชร์ลูกโซ่
หัวข้อ | ธุรกิจขายตรง (Direct Selling) | ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Pyramid Scheme) |
---|---|---|
ค่าสมัคร/ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น | ค่าสมัครต่ำ จ่ายเพื่อคู่มือฝึกอบรมและสินค้าตัวอย่าง | ค่าสมัครสูง ถูกบังคับให้ซื้อสินค้าเกินความจำเป็น |
การจำหน่ายสินค้า | เน้นการขายสินค้าที่มีคุณภาพหลากหลาย และมีการขายซ้ำเรื่อยๆ | สินค้าคุณภาพต่ำหรือไม่มีคุณภาพ เน้นกำไรสูงจากการบังคับซื้อ |
รายได้จากการขายสินค้า | รายได้มาจากการขายสินค้าและคอมมิชชั่นจากยอดขาย | รายได้มาจากการชักชวนสมาชิกใหม่ ไม่ใช่การขายสินค้า |
นโยบายการรับประกันสินค้า | มีนโยบายคืนเงินหรือรับซื้อสินค้ากลับคืนเมื่อไม่พึงพอใจ | ไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้าคืน เพราะจะทำให้ระบบพีระมิดล้ม |
รูปแบบการทำธุรกิจ | มุ่งเน้นธุรกิจระยะยาว มีความรับผิดชอบต่อผู้ขายและลูกค้า | ระบบชั่วคราว ผู้ที่อยู่บนสุดของพีระมิดจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด |
การขึ้นตำแหน่ง/รายได้ | ขึ้นอยู่กับยอดขายและความสามารถในการขายสินค้า | ตำแหน่งสามารถซื้อได้ ไม่เน้นการทำงาน แต่เน้นการลงทุนเพิ่ม |
การฝึกอบรมและสนับสนุน | มีการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและบริการ | ไม่มีการฝึกอบรมสินค้า เน้นการชักชวนคนใหม่เข้าร่วมเครือข่าย |
การตุนสินค้า | มีข้อห้ามในการตุนสินค้าเพื่อรักษายอดขาย | สมาชิกถูกบังคับให้ซื้อสินค้าตุนไว้ แม้ขายไม่ได้ |
การสร้างรายได้ | ผู้ขายอิสระสร้างรายได้จากการขายสินค้า | รายได้หลักมาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ |
สถานะทางกฎหมาย | ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการคุ้มครองจากหน่วยงานรัฐ | ผิดกฎหมายในหลายประเทศ เนื่องจากฉ้อฉลและไม่โปร่งใส |
จุดที่ต้องระวังเมื่อเข้าร่วมธุรกิจ
- ตรวจสอบสินค้าจริง: ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องจะมีสินค้าจริงที่สามารถตรวจสอบได้ ผู้บริโภคสามารถดูรายละเอียดสินค้า เช่น ส่วนผสม ประโยชน์ และวิธีการใช้งาน หากสินค้ามีลักษณะเหมือนถูกบังหน้า ควรตั้งข้อสงสัยว่าธุรกิจนั้นอาจจะไม่ใช่ขายตรงจริงๆ
- ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล: หากธุรกิจนำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริงในระยะเวลาสั้นๆ โดยไม่มีการอ้างอิงถึงยอดขายสินค้า ควรพิจารณาให้ดีว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่
- การชักชวนสมาชิก: ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าเป็นหลัก ไม่เน้นการชักชวนคนใหม่ๆ เข้าร่วมเพียงเพื่อสร้างรายได้ หากธุรกิจนั้นบังคับให้ต้องหาสมาชิกใหม่เป็นการสำคัญ ควรระวังการตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
สรุป
ธุรกิจขายตรง และ แชร์ลูกโซ่ มีความแตกต่างอย่างชัดเจน ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องมีสินค้าที่เป็นของจริงและสร้างรายได้จากการขายสินค้า ในขณะที่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่มุ่งเน้นการชักชวนคนใหม่เข้าร่วมเพื่อให้ได้เงินหมุนเวียน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและผิดกฎหมาย การตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจใดๆ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดว่าเป็นธุรกิจที่ถูกต้องและโปร่งใส