การทำ SEO E-Commerce ให้กับร้านค้า ที่มีสินค้าจำนวนไม่มากอาจฟังดูเหมือนเป็นงานยากเมื่อเทียบกับร้านค้าคู่แข่งที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกสรรมากมายกว่าเรามากนัก แต่อย่ากังวลไป เพราะถึงคุณจะมีสินค้าน้อยและมีจำกัด แต่ก็ยังสามารถสร้างการมองเห็นและคะแนน SEO ให้สูงปรี๊ดจนเอาชนะคู่แข่งที่ใหญ่กว่าได้ เอออออ มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้าง!
1. เน้นคุณภาพเนื้อหาสินค้า
- การมีสินค้าจำนวนน้อยแปลว่าเรามีเวลาเน้นไปที่แต่ละชิ้นได้มากขึ้น สร้างคำอธิบายที่ชัดเจนและเต็มไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อมคำหลักที่เกี่ยวข้อง
- อย่าลืมใช้รูปภาพที่คมชัด แสดงให้เห็นสินค้าจากทุกมุมมอง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่าย
- รายละเอียดของสินค้า ต้องครบถ้วน ชัดเจน อ่านง่าย ได้ใจความ ในเนื้อหาที่กระชับสั้นๆได้ใจความ แต่เราจะไปขยายความเยอะๆอีกทีใน Content Hub ซึ่งเป็นเทคนิคของทางเรา Makewebforyou ที่รับทำเว็บไซต์
2. สร้าง Content Hub ที่เกี่ยวข้อง
- สร้างบทความที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ เช่น รีวิวสินค้า การใช้งาน คู่มือ หรือเทรนด์ที่เกี่ยวข้อง
- ใช้บทความเหล่านี้เป็นศูนย์รวมเพื่อเชื่อมโยงมายังหน้าสินค้าเดี่ยว และทำให้บอทของ Google เห็นถึงความเกี่ยวข้องระหว่างเนื้อหาและสินค้าของคุณและมองว่า มันคือเนื้อหาที่ขยายความของหน้าสินค้านั้นๆของเรา
- เชื่อมโยงโดยใช้ Anchor Text ที่เป็น Keyword หลักของสินค้านั้นๆของเรา โดยเชื่อมโยงกันระหว่างหน้าสินค้า และ หน้าบทความ Content Hub
- ในหน้า Content Hub นั้นแนะนำว่าควรใส่ตัว Single Product สินค้านั้นๆที่เรากล่าวถึงลงไปในท้ายบทความด้วย
3. เสริมรีวิวจากลูกค้า
- เชิญชวนให้ลูกค้าฝากรีวิวหรือคะแนนสำหรับสินค้าที่ซื้อ รีวิวที่จริงใจสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและแบรนด์ของคุณได้
- ตอบกลับความคิดเห็นหรือคำถามเพื่อสร้างความไว้วางใจและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
- อย่าลืมเปิดฟอร์มให้ลูกค้ารีวิวด้วย แต่ควรจำกัดให้ผู้ที่รีวิวอาจจะต้อง Login หรือ กรอก E-mail ที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันความคิดเห็นสแปม
4. เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างเว็บไซต์
- ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้เร็ว มีโครงสร้าง URL ที่เป็นมิตรกับ SEO และใช้งานได้อย่างง่ายดายบนทุกอุปกรณ์
- ใช้การมาร์กอัปข้อมูลโครงสร้าง (Structured Data) เพื่อเพิ่มโอกาสให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจรายละเอียดของสินค้าคุณได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่น สคีมา Product
- ภาพของสินค้าควรเป็นภาพสกุลไฟล์ .webp และมีขนาด 1040×1040 ที่แนะนำไซร้ภาพขนาดนี้เพราะเราสามารถนำไปใช้ใน Facebook และ Instragram ได้ด้วย เยี่ยมไหมหล่ะ
5. เชื่อมโยงลิงก์ภายในและภายนอก
- ลิงก์ภายใน: ใช้การเชื่อมโยงภายในเพื่อดึงทราฟฟิกไปยังหน้าสินค้าเดี่ยวของคุณอย่างเหมาะสม หน้าไหนที่เกี่ยวข้องก็ลิ้งก์กันได้เลย
- ลิงก์ภายนอก: ส่งเสริมการสร้างลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มอำนาจและคะแนน SEO
6. โปรโมตโซเชียลมีเดียให้ปัง
- โปรโมตสินค้าของคุณบนโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการเข้าถึง และกระตุ้นให้ลูกค้าแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าของคุณ
- จัดกิจกรรมหรือแคมเปญที่สนุกสนานเพื่อดึงดูดการเข้าถึงจากกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ
- การโปรโมตทางโซเชียลมีเดี่ยอาจไม่ได้ส่งผลต่อคะแนน SEO โดยตรง แต่ทหากหน้าสินค้านั้นๆของเรา มีปริมาณ Traffic ในปริมาณมากและมีการสั่งซื้อสินค้าและได้รับรีวิวกลับ Google จะมองว่าหน้าสินค้านั้นๆของเรามีประสิทธิภาพ และคะแนนอันดับดีขึ้น
7. ติดตามและปรับปรุง
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics เพื่อติดตามประสิทธิภาพของเว็บไซต์และทราบว่าผู้เยี่ยมชมมาจากแหล่งใด
- ปรับปรุงตามข้อมูลที่ได้มาเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมกลายเป็นลูกค้าของคุณ
อย่าให้จำนวนสินค้าน้อยมาขวางทางความสำเร็จ การใช้วิธีเหล่านี้อย่างมีระบบจะช่วยให้เว็บไซต์ E-Commerce ของคุณโดดเด่นในหน้าผลลัพธ์ของการค้นหาได้!