การทำเว็บไซต์ที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องการออกแบบให้สวยงาม หรือมีเนื้อหาที่น่าสนใจเท่านั้น การวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์อย่างถูกต้องก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะการสร้าง Sitemap ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีการจัดระเบียบและการนำทางที่ง่ายขึ้น
ในบทความก่อนหน้านี้ หนูได้พูดถึงข้อผิดพลาดของมือใหม่ที่ทำเว็บไซต์ หนึ่งในนั้นคือ การไม่วางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ให้ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ยุ่งเหยิงและยากต่อการใช้งาน วันนี้หนูจะมาพาท่านกั๊กและผู้อ่านไปเจาะลึกในเรื่องของ Sitemap ว่ามันคืออะไร และการวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์นั้นสำคัญแค่ไหน พร้อมวิธีการวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์อย่างถูกต้อง!
Sitemap คืออะไร?
Sitemap หรือในภาษาไทยเรียกว่า “แผนผังเว็บไซต์” เป็นไฟล์ที่ใช้แสดงรายการหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์ของเรา ว่ามีหน้าไหนบ้าง และการเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ เป็นอย่างไร เปรียบเสมือนแผนที่ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหา (เช่น Google) เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเรามีโครงสร้างอย่างไรและเนื้อหาส่วนไหนสำคัญ
ประเภทของ Sitemap มี 2 ประเภทหลักๆ:
- XML Sitemap: ออกแบบมาเพื่อเครื่องมือค้นหา เป็นไฟล์ที่แสดงรายการหน้าของเว็บไซต์ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับบอทที่ใช้ในการทำดัชนี (index) ของ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ
- HTML Sitemap: สร้างขึ้นเพื่อผู้ใช้ เป็นหน้าเว็บที่รวบรวมลิงก์ทั้งหมดของเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้สามารถดูโครงสร้างเว็บไซต์ทั้งหมดได้ในที่เดียว
ทำไม Sitemap ถึงสำคัญ?
การทำ Sitemap ไม่ได้แค่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ด้วย มาดูเหตุผลกันว่าทำไมการวางแผน Sitemap จึงสำคัญ:
- ช่วยเครื่องมือค้นหาเข้าใจเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
Sitemap ช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าถึงทุกหน้าในเว็บไซต์ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเว็บไซต์ของเรามีโครงสร้างที่ซับซ้อน หรือมีหลายหน้าที่เชื่อมต่อกัน Sitemap จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ทำให้เว็บไซต์ของเราถูกจัดอันดับในการค้นหาได้ดีขึ้น - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดอันดับ (SEO)
เว็บไซต์ที่มีการจัดการ Sitemap อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่า หน้าไหนเป็นหน้าสำคัญของเว็บไซต์ และหน้าต่างๆ นั้นมีการเชื่อมโยงกันอย่างไร ทำให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสถูกจัดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา - ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)
การที่เว็บไซต์มีโครงสร้างชัดเจนและสามารถนำทางได้ง่าย จะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้เร็วขึ้น และลดความสับสนเมื่อต้องการเปลี่ยนหน้าหรือหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ผู้ใช้รู้สึกประทับใจ และกลับมาใช้งานอีกในอนาคต
บทความแนะนำ : แนะนำ 5 ปลั๊กอินบน WordPress ที่สร้าง Sitemap ง่ายๆ ใช้งานฟรี
การวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ (Website Structure) คืออะไร?
โครงสร้างเว็บไซต์ คือวิธีการจัดระเบียบเนื้อหาและหน้าเว็บต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นลำดับและเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างของโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี คือการจัดหมวดหมู่ของเนื้อหา เช่น หน้าแรก > หมวดหมู่ > เนื้อหาเฉพาะ เป็นต้น
ทำไมการวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ถึงสำคัญ?
การวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจเนื้อหาและการเชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงทั้ง SEO และ UX โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้:
- การนำทางที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้
โครงสร้างเว็บไซต์ที่ชัดเจนและเป็นระบบ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี เพราะหากผู้ใช้หาข้อมูลไม่เจอหรือสับสนกับการนำทาง พวกเขาอาจจะออกจากเว็บไซต์ไปในทันที - ช่วยให้เครื่องมือค้นหาทำงานได้ดีขึ้น
โครงสร้างที่ชัดเจนจะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถทำดัชนี (index) หน้าเว็บไซต์ได้ครบถ้วนและถูกต้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา เช่น การเชื่อมโยงหน้าในเว็บไซต์อย่างมีระบบ จะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาใดสำคัญและควรจัดอันดับสูง - เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างดีจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บไซต์มีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและรักษาผู้เข้าชมให้ใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น - ช่วยในการจัดการเนื้อหาในระยะยาว
หากเราไม่ได้วางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่ต้น การเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ในอนาคตอาจทำให้เว็บไซต์ยุ่งเหยิง และยากต่อการจัดการ การวางแผนโครงสร้างที่ดีจะช่วยให้การเพิ่มเนื้อหาใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ทำให้เว็บไซต์ของคุณซับซ้อนเกินไป
การวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีต้องทำอย่างไร?
เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้างที่ดี และเป็นมิตรกับทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา มีขั้นตอนดังนี้:
- วิเคราะห์เนื้อหาที่จะใส่ลงในเว็บไซต์
เริ่มต้นจากการรวบรวมเนื้อหาทั้งหมดที่คุณต้องการใส่ลงในเว็บไซต์ จากนั้นทำการแบ่งเนื้อหาออกเป็นหมวดหมู่หลักๆ เช่น บทความ, สินค้า, บริการ ฯลฯ เพื่อให้เข้าใจว่าเนื้อหาที่เรามีอยู่สามารถจัดโครงสร้างเป็นลำดับขั้นอย่างไร - กำหนดหมวดหมู่และหน้าเพจหลัก
หลังจากที่วิเคราะห์เนื้อหาแล้ว ให้กำหนดหมวดหมู่หลักของเว็บไซต์ โดยให้แต่ละหมวดหมู่มีหน้าเพจเฉพาะ เช่น หน้าเพจเกี่ยวกับเรา, บทความ, บริการ เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยให้การนำทางและการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์เป็นไปอย่างง่ายดาย - สร้างลิงก์เชื่อมโยงระหว่างหน้าเพจ
การสร้างลิงก์ภายใน (Internal Linking) เป็นการเชื่อมโยงระหว่างหน้าเพจต่างๆ ในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย - ทำ Sitemap เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์
หลังจากวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการสร้าง Sitemap เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างและเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์อย่างง่ายดาย - ตรวจสอบและปรับปรุงโครงสร้างอยู่เสมอ
โครงสร้างเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ควรตรวจสอบว่าโครงสร้างยังคงชัดเจนและใช้งานได้ดีหรือไม่
Sitemap และการวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของท่านกั๊กไม่เพียงแค่ทำงานได้ดี แต่ยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณดูเป็นระเบียบ มีความน่าเชื่อถือ และใช้งานง่าย การสร้างโครงสร้างที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมี SEO ที่ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จะสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีทั้งในด้านประสบการณ์ผู้ใช้และการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา