ก่อนที่จะเริ่มทำการตลาดออนไลน์บน Google นั้น เราควรจะต้องเรียนรู้และรู้จัก Keyword คืออะไร เป็นอันดับแรกๆก่อนเลยก็ว่าได้ Keyword นั้นค่อนข้างสำคัญมาก ในการทำ Seo เลยทีเดียว หากเราไม่วางแผน Keyword Seo แล้วหล่ะก็ เว็บไซต์ของเราก็จะมั่วไปหมด ไม่ติด Keyword ค้นหาสักทาง เพราะ Google จะไม่แน่ใจว่า จะจัดอันดับเว็บไซต์ของเราใน Keyword ไหนดี
ผลที่ตามมานั่นก็คือ เว็บไซต์เราจะไม่ติดหน้าแรกๆ และ Traffic น้อยนั่นเอง หรือจะเรียกว่าแป๊กนั่นแหละ
และในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการค้นหา Keyword หรือที่เรียกกัน Keyword research กันนั่นเอง เราควรจะวางแผน Keyword ได้อย่างไร เป็น Step by Step กันเลยครับทุกคน
Keyword คืออะไร?
ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาหลัก เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าา Keyword คืออะไร ทำไมเราต้องเรียนรู้มันก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ด้วยเว็บไซต์
Keyword คือ ประโยค ถ้อยคำ หรือ วลี ที่ค้นหาบนทุกแพลตฟอร์มของโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Social Media ต่างๆ ในรูปแบบของ Search Engine ที่มักมีไอค่อนแว่นขยาย เพื่อสำหรับให้ค้นหานั่นเอง
ยกตัวอย่าง ผมกำลังอยากหา สบู่สครับกาแฟ กลิ่นหอมๆ แม่ค้าสวยๆ ราคาเบาๆ มาเกาผิวเล่นๆสักก้อน ผมก็จะไปเข้า Google เพื่อเริ่มค้นหา สบู่สครับที่ผมอยากได้ โดยผมจะค้นว่า “สบู่สครับกาแฟ ราคาถูก” หรือ “สบู่สครับกาแฟ หอมๆ แม่ค้าสวย” หรือ ผมอยากดูตัวเลือกเยอะๆ ก็แค่ค้นแค่คำว่า “สบู่สครับกาแฟ” เป็นต้น
Keyword สำคัญอย่างไร?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Keyword นั้นค่อนข้างสำคัญต่อธุรกิจอย่างมาก เพราะมันคือ ปัจจัยหรือ สะพานเชื่อมระหว่างลูกค้ากับเรานั่นเอง ใจความสำคัญของการทำ Seo นั่นก็คือ ผู้คนค้นหาคำๆนี้แล้วเขามาเจอเรานั่นแหละ หากเราเลือก keyword ที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ก็จะสามารถคัดกรองลูกค้าที่กำลังสนใจสินค้าของเราจริงๆ และเราต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา
Keyword เปรียบเสมือนทำเลค้าขาย และแน่นอนว่า มันมีการแข่งขันแย่งชิง ยิ่งทำเลงามๆ ทำเลทอง แล้วหล่ะก็ไม่ต้องสืบเลย สงครามชัดๆ
แล้วเราจะไปอยู่ในสมรภูมิรบแบบไหน ขึ้นอยู่ที่เราเลือกเอง และ งบประมาณในกระเป๋าของคุณเอง
หากเราต้องการทำเลทองก็ต้องแข่งขันทำ Seo กันหนัก และอาจถูกโจมตีจากเว็บไซต์คู่แข่งของเราอีกด้วย ดังนั้น การเลือก keyword ที่เหมาะสมกับตัวเรานั้นค่อนข้างสำคัญมาก
รู้จักธุรกิจตัวเอง แล้วหา Keyword ที่เหมาะสมกับเรา
คุณอาจจะกำลังเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆของคุณ แต่คุณก็อยากมีลูกค้าบนโลกออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่าบนโลกออนไลน์นั้น มีการแข่งขันกันสูง แต่เราจะเลือกสมรภูมิรบแบบไหนที่เราพอจะสู้ไหว สู้ได้ และมีลูกค้ากลับมา
คิดตามดูว่าหากเราเลือกเล่น keyword ที่ไม่มีผู้คนค้นหาเลย มันก็เหมือนเราไปเปิดเซเว่นในทุ่งนาร้างๆ ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมานั่นแหละ แล้วธุรกิจจะไปรอดไหม
อะแล้วถ้าเราเลือกเล่น Keyword ที่ผู้คนค้นหาหนาแน่น มันก็เหมือนเราไปเปิดเซเว่นในใจกลางเมืองกรุง ที่มีเซเว่นในทุกพื้นที่ตารางเมตร ผุดเป็นดอกเห็ด แล้วเราจะไปสู่แข่งกับเขาได้อย่างไรหล่ะ
อ้าว! แล้วแบบนี้เราจะเลือกเล่น Keyword อะไรดีหล่ะครับ ทำไมยากจังหล่ะ 555
วิเคราะห์ขู่แข่ง และ กำลังทรัพย์ของตัวเอง
ยกตัวอย่าง คุณกำลังจะเปิดเต้นท์รถมือสองเล็กๆ แบบ Start up แต่คุณจะไปเล่นคีย์เวิร์ด “รถมือสอง” ที่มีอัตราค้นหาสูงลิบเลยเนี่ย แล้วต้องไปเจอเว็บใหญ่ยักษ์อย่าง one2car หรือ chobrod แบบเนี้ย คุณจะไปสู้เขาไหวไหม ถ้าคุณแข่งสู้เขาได้คุณรวยเละ แต่กำลังทรัพย์ของคุณมีมากพอที่จะไปแข่งกับเขาไหมหล่ะ?
ถามตัวเองก่อนว่าไหวไหม
อย่าง Keyword “รถมือสอง” ที่มีการค้นหา 246,000 คน/เดือน แล้วเว็บที่อยู่หน้าแรกนี่เว็บแพลตฟอร์มรถมือสองใหญ่ยักษ์ของประเทศทั้งนั้น ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปสู้รบในสนามกับเขา เข้าไปก็ตายเปล่า
หรือเราจะมาเลือกเล่น Keyword “รถมือสอง กรุงเทพ” ที่ยอดการค้นหา 320คน/เดือน ดู ประเมินเว็บคู่แข่งดูว่าเขาใหญ่ไหม ถ้าไม่ใหญ่มากเราก็เลือกลงแข่งสนามนี้ก็ได้
จากที่ผมดูคร่าวๆ มีเว็บนี้ติดหน้าแรกอยู่ และเว็บนี้ก็มียอดเข้าชมเว็บแบบประมาณการ พันเป็นต่อเดือนอยู่ ความน่าชื่อถือโดเมน (Domain Authority อยู่ที่ 5) จำนวน BackLinks แค่ 6 ลิ้งก์ ก็มาอยู่หน้าแรกแล้ว
เห็นไหมครับว่า เราก็สู้เขาได้สบายๆ และธุรกิจของคุณก็อยู่ในหน้าแรกของ Google แล้ว ในสนามรบที่มีคีย์เวิร์ดว่า
“รถมือสอง กรุงเทพ” หากคุณเปิดเต้นท์รถมือสองอยู่ นครปฐม ก็ รถมือสอง นครปฐม ก็ได้
ลองคิดตามดูว่า ผู้คนค้นหาคำว่า รถมือสอง กรุงเทพ นั้นหมายความว่า คนที่ค้นหาเขาอยู่กรุงเทพฯ กำลังหารถมือสองในเขตกรุงเทพฯ ที่มียอดชมราวๆ 300 คน คลิ๊กเข้าเว็บเรา แล้วเขาเจอรถที่เขาต้องการ อย่างต่ำๆเดือนนึงก็ 2-3 คันได้หล่ะ
Keyword มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง?
ทีนี้เรามาทำความรู้จักกันครับว่า Keyword ที่เรากำลังจะเล่นเนี่ย มันมีกี่ประเภท แบบไหนบ้าง และมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว เพราะคุณจำเป็นต้องรู้ว่าเราควรจะไปอยู่ในสมรภูมิรบแบบไหน และแต่ละประเภทก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน และ เราควรวางแผนคีย์เวิร์ดต่างๆเหล่านี้ไปอยู่ที่หน้าหรือบทความไหนบนเว็บไซต์ของคุณ
โดยประเภทของคีย์เวิร์ดนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักดังนี้
Mass Keyword
เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของสินค้าหรือบริการนั้นๆ ที่เป็นคำกว้างๆไม่เฉพาะเจาะจง แต่มันคือ Keyword หลักของเว็บไซต์ของเรา
ยกตัวอย่าง เว็บ Makewebforyou ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ รับทำเว็บไซต์ ซึ่ง Mass keyword ของผมก็คือ “ทำเว็บไซต์” ซึ่งเป็นคำค้นหาที่มีปริมาณค้นหาสูง
ซึ่งไม่ว่าผู้คนค้นหา keyword อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับ “ทำเว็บไซต์” ก็จะถูกรวมมาอยู่ใน Mass Keyword นี้
ตัวอย่างเช่น ค้นหาว่า “ทำเว็บไซต์ ติด Seo” ก็จะปรากฏ Volume ของคีย์ “ทำเว็บไซต์” ด้วย
แม้ว่า Mass Keyword นี้จะมีปริมาณการค้นหาสูง แต่ก็ไม่ใช่ Keyword ที่ทำเงินให้กับธุรกิจของคุณ เพราะ Mass Keyword นั้นเป็นคำค้นหาที่กว้างๆ ไม่ได้เจาะจงสิ่งที่ผู้คนค้นหาอย่างจริงๆ และสมรภูมิรบที่ดุเดือด
Niche Keyword
Niche Keyword คือคำค้นหาที่ขยายความของ Mass Keyword อีกที โดยลักษณะสำคัญคือการใช้คำที่เจาะจงลงไปใน Mass Keyword
ยกตัวอย่างเช่น “ทำเว็บไซต์” คือ Mass Keyword เมื่อเพิ่มคำที่เจาะจงขึ้นมาอย่าง “ทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์” หรือ “ทำเว็บไซต์ ด้วย wordpress” เป็นต้น
Nich Keyword นั้นคือคีย์เวิร์ดรองที่เราควรเล่น อาจจะนำไปเล่นใน Category Blog หรือ Page ต่างๆ บนเว็บไซต์ของเรา
NICHE LONGTAIL KEYWORD
Niche Longtail Keyword คือคำค้นหาที่ระบุเฉพาะเจาะจงเข้ามา อย่างจำพวก ชื่อรุ่น ขนาดสินค้า ราคาสินค้า ชื่อแบรนด์ ฯลฯ
ยกตัวอย่างเช่น “ทำเว็บไซต์ ติดหน้าแรก ราคาไม่เกิน 3 หมื่น” เป็นต้น หรือ “ทำเว็บไซต์ ด้วย wordpress ราคาถูก” เป็นต้น
และ Niche Longtail Keyword นี้เหมาะสำหรับนำไปทำ Seo ในรูปแบบของ Product สินค้าและบริการต่างๆ ของเว็บไซต์ของเรา
แม้ว่า Niche Longtail Keyword นั้นมีปริมาณการค้นหาที่น้อยมาก แต่ก็เป็น Keyword ที่ทำเงินให้กับเราอย่างสูงที่สุด
เกร็ดความรู้ : รู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์เว็บนึงสามารถเล่นได้หลายคีย์เวิร์ดอีกด้วย
การค้นหา Keyword หรือ Keyword Research
มาถึงตรงนี้หลายคนคงเห็นภาพ และพอคิดตามได้แล้วใช่ไหมครับ ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า เราจะใช้เครื่องมือไหนในการดูและวิเคราะห์ Keyword ที่เรากำลังจะเล่น
โดยเครื่องมือทั้งหมด ผมจะแนะนำเครื่องมือ Keyword Research แบบฟรีๆ ที่พอใช้ได้ไปวัดไปวา และพอที่จะวิเคราะห์เบื่องต้นได้นะครับ
Google Keyword Partner
Google Keyword Partner เป็น Tool ของ Google Ads ที่ใช้กันแบบฟรี ซึ่งปริมาณการค้นหาจะคาดการณ์โดยเฉลี่ย ซึ่งสามารถดูได้หลายอย่างเช่น
- การเปลี่ยนแปลงใน 3 เดือน
- การเปลี่ยนเปลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- ระดับการแข่งขัน
- ราคาโดยประมาณในการยิงโฆษณา
และยังสามารถดูคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย นับว่าเป็น 1 เครื่องมือของ Google ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ Keyword ได้แบบฟรีๆ
Google Trend
Google Trend เป็นอีกเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก เพียงแต่เราจะเห็นกราฟที่เป็นเทรนด์ในช่วงระยะเวลานั้นๆ เพียงแค่นั้น จะไม่ได้เห็นยอดปริมาณการค้นหา ซึ่งสามารถนำ Keyword ต่างๆ นำมาเปรียบเทียบกันได้ว่า ในช่วงระยะเวลานั้นเป็นเทรนด์การค้นหาสูงมากน้อยแค่ไหน
และ Google Trend นั้นยังสามารถวิเคราะห์อย่างอื่นได้อีกด้วย เช่น
- เปรียบเทียบตามภูมิภาคจังหวัด จังหวัดไหนค้นหาคีย์นี้เยอะ นำไปเป็นข้อมูลยิง Ads ได้
- คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
- คำค้นหาที่กำลังมาแรง
- คำค้นหาเป็นที่นิยม
Semrush
Semrush เป็นเว็บไซต์ Tool สำหรับคนทำ Seo อีกเว็บนึงที่เป็นที่นิยมของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งมี Tool ให้วิเคราะห์การทำ Seo ค่อนข้างครบเครื่องเลยทีเดียว แต่ก็เสียตังค์อยู่เหมือนกันนะถ้าหากต้องการใช้เครื่องมือแบบครบๆเนี่ย แต่ยังดีที่ว่าเครื่องมือในหมวดหมู่ Keyword Research นั้นยังใช้ได้ฟรีอยู่
แต่ข้อเสียเลยคือความแม่นยำของ Keyword ภาษาไทยนี่แหละ ไม่ค่อยแม่น จะแม่นพวก Keyword ที่เป็นภาษาอังกฤษซะมากกว่าครับ
โดย Semrush จะดูได้หลากหลายอย่างในการวิเคราะห์เช่น
- ปริมาณการค้นหาต่อเดือน
- ความยากง่ายของคีย์เวิร์ดนี้
- ประเทศไหนค้นหาคีย์นี้เยอะ
- บอกเทรนด์ ณ ขณะนั้น
- บอกคีย์เวิร์ดที่แปรผัน
- บอกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
Ubersuggest
Ubersuggest หรือเว็บพี่โล้นของเรานั่นเอง พี่แกเคลมว่า แพลตฟอร์ม Seo Tool ของเขาเนี่ยแม่นยำที่สุดในโลกแล้ว โอ้โห แต่ก็จริงผมใช้ Ubersuggest เป็นหลักๆพอๆกับ Ahrefs เลยทีเดียวแหละ ซึ่งความเจ๋งของมันเลยคือ คิดหัวข้อ Content ให้เราด้วยนะเออ
มาดูกันดีกว่าว่าพี่โล้นของเราใช้วิเคราะห์ Keyword อะไรได้บ้าง
- ปริมาณการค้นหาต่อเดือน
- ความยากง่ายในการทำ Seo
- งบประมาณต่อคลิ๊กเท่าไหร่
- กราฟบอกช่วงเวลาเทรนด์ย้อนหลัง (ย้อนมากๆเสียตัง)
- บอกคีย์เวิร์ดไอเดีย ไว้เป็นไอเดียได้อีกด้วย
- บอกคอนเท้นต์ไอเดีย ไว้เป็นไอเดียในการทำคอนเท้นต์บทความได้อีก ผมชอบมาก
นำ Keyword ที่วิเคราะห์ได้แล้ว นำมาวางแผนวางบนเว็บไซต์
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการนำคีย์เวิร์ดที่เราวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว นำมาวางแผนในการทำเว็บไซต์
จากภาพผมทำมาแบบลวกๆคร่าวๆให้พอเห็นภาพนะครับ จริงๆผมทำให้ลูกค้าละเอียดกว่านี้ หรือทำตารางบน Excel แล้วแต่สะดวกเลยครับ ให้ดูง่ายเข้าใจได้ก็พอ แบ่งเป็นข้อๆเลย Keyword นี้จะไปเล่นกับ Page ไหน Category อะไร บทความนี้จะเล่น Keyword อะไรได้บ้าง..
เมื่อเราได้วิเคราะห์ยอด Volume ที่เราจะเล่นไว้ในใจได้ละ แล้วคิดว่านำไปทำ Seo ชนะคู่แข่งได้ เราก็นำข้อมูลในการวิเคราะห์นี้ไปวางแผนในการสร้าง หรือ จ้าง Dev ในการทำเว็บไซต์ขึ้นมา แล้ว Dev จะนำข้อมูลเหล่านี้นำไปลงเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งมันสอดคล้องกับการทำ On-page Seo อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม : Seo On-page คืออะไร ทำไมจำเป็นในการทำเว็บไซต์
แต่ถ้าผู้อ่านอยากได้เว็บไซต์ที่วางโครงเว็บ วาง Keyword ได้อย่างแม่นยำแล้วหล่ะก็ ก็ต้องจ้างผมแหละครับ กับ Makewebforyou
ที่คุณจะได้เว็บไซต์แบบคุณภาพเต็มเปี่ยมในราคาแค่หลักหมื่นเพียงเท่านั้น บอกเลยว่า คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่ต้องไปหาที่ไหนให้มันเสียเวลาอีกแล้ว หากคุณกำลังมองหาคนทำเว็บไซต์คุณภาพ คุณมาถูกทางแล้ว คุณโชคดีแล้วที่มาเจอผม ให้ผมสร้างเว็บชั้นยอดให้กับคุณสิ
สรุปเนื้อหา Keyword คืออะไร อยากทำ Seo ควรรู้ไว้
ผมอยากจะกล่าวทิ้งท้ายว่า การวางแผน Keyword นั้นสำคัญมากนะครับทุกคน มันควรจะต้องวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจแล้วด้วยซ้ำ วางแผนตั้งแต่ก่อนจะตั้งธุรกิจด้วยเหอะ เพราะทุกอย่างมันต้องสอดคล้องกัน ทั้งชื่อเว็บ ชื่อบริษัท และ Keyword หลัก
อย่างคุณจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง อย่างขายโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้านก็ต้องชื่อเดียวกับชื่อเว็บไซต์ และชื่อเว็บไซต์ มันก็ต้องมี keyword อยู่ในชื่อ Domain ด้วยเหมือนกัน ถึงจะแบบ Full Seo จริงๆ
ถ้าหากคุณมีแพลนเปิดร้าน เปิดกิจการอะไรก็ตาม ผมแนะนำอยากให้ศึกษาหรือวางแผนเรื่อง Keyword ไว้ล่วงหน้าเลยครับ
Pingback: Do&Don’t สิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ในการทำ SEO - MakeWebForYou
Pingback: On-page SEO คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นในการ ทำเว็บไซต์ - MakeWebForYou